ดูหนังfast10

ดูหนังfast10

ดูหนังfast10

ดูหนังfast10 ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังร่วมแสดงโดยทีมนักแสดงกลุ่มใหม่สำหรับแฟรนไชส์นี้ ดูหนังfast10 ซึ่งรวมถึงนักแสดงรางวัลออสการ์ บรี ลาร์สัน ในบท เทส เจ้าหน้าที่ผู้ทรยศเอเจนซี, อลัน ริชท์สัน (Reacher) ในบท ไอเมส หัวหน้าคนใหม่ของเอเจนซี ผู้ไม่ได้ปลาบปลื้มในตัวลูกทีมของดอมเท่ากับมิสเตอร์โนบอดี้ หัวหน้าคนเก่า, แดเนียลา เมลชีเออร์ (The Suicide Squad) ในบทนักซิ่งชาวบราซิลเลียน ผู้มีความเกี่ยวข้องกับอดีตของดอมอย่างแน่นแฟ้นและนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์ในตำนาน ริต้า โมริโน ในบทคุณยายทอเร็ตโต้ ของดอมและไมอา

Fast X อำนวยการสร้างโดยนีล เอช. มอริทซ์, วิน ดีเซล, จัสติน หลิน, เจฟฟ์ เคิร์สเชนบอมและซาแมนธา วินเซนต์ ดูหนังfast10  ผู้ควบคุมงานสร้างได้แก่โจเซฟ เอ็ม. คาราชิโอโล จูเนียร์, เดวิด เคน, คริส มอร์แกน, อแมนดา ลูอิสและมาร์ค บอมแบ็ค

ผู้กำกับใหม่ Fast X ชายผู้เข้ามาเสียบแทนและมีเวลาเตรียมตัววันเดียวก่อนถ่าย โดย ตั๋วร้อนฯ

คุณรู้ไหมว่าผู้กำกับคนใหม่ของ Fast X อย่าง Louis Leterrier นั้นเข้ามาเสียบกลางคันผู้กำกับคนเก่าของแฟรนไชส์ Justin Lin หลังจากหนังถ่ายทำกันไปแล้วหนึ่งสัปดาห์ เหตุเพราะมีเรื่องไม่ลงรอยกันระหว่าง Vin Diesel กับ Justin Lin นั่นทำให้สตูดิโอจำเป็นต้องควานหาตัวผู้กำกับที่จะต้องเข้ามารับเผือกร้อนเพื่อให้งานได้เดินต่อ ไม่มีเวลาคิดใดๆทั้งสิ้น เพราะกำหนดการมันมีอยู่ชัดเจน พวกเขาต้องหาคนทำหนังแอ็คชั่นที่ไว้ใจได้ แล้วก็เป็น Louis Leterrier เด็กสร้างของผู้กำกับฝรั่งเศสบ้านเดียวกันอย่าง Luc Besson เขาเคยทำหนังเกี่ยวกับรถมันส์ๆอย่าง Transporter และหนังฮีโร่ Marvel อย่าง The Incredible Hulk รวมถึงหนังปล้นด้วยมายากลอย่าง Now You See Me ซึ่งรวมๆแล้วเขาคือคนทำหนังแอ็คชั่นที่แม่นเอาเรื่องอยู่

แต่อย่างที่ทราบว่า Fast X ได้เริ่มกระบวนการถ่ายทำไปแล้ว Louis Leterrier มีเวลาเตรียมตัวแค่วันเดียวเพื่อที่จะดูทิศทางต่างๆของหนัง แล้วก็เริ่มต้นถ่ายทำต่อจาก Justin Lin ทันทีในวันรุ่งขึ้น แม่เจ้า นี่มันขั้นเทพชัดๆ แต่หากมองเผินๆแล้วหลายๆเสียงคิดว่าหนังจะออกมาเละเทะแน่นอน(จากที่เละอยู่แล้วจากการออกอ่าวออกทะเลในภาคหลังๆ)

“คุณคงไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนที่ทำ Fast & Furious เละเทะ แบบว่า ‘ใช่ Fast เยี่ยมมาก แล้ว Louis Leterrier ก็เข้ามาจัดการและทำลายมันเละคามือ ”

เขาออกตัวอย่างอารมณ์ดีหลังจากเข้ามารับงานอันเร่งรีบในแฟรนไชส์ทรงคุณค่าที่ตัวเขาไม่ได้เตรียมงานตั้งแต่แรก การอ่านบทที่เขียนโดย Dan Mazeau กับ Justin Lin ในช่วงเวลาแค่ข้ามคืน แล้วเริ่มกำกับ นั่นมันเป็นเรื่องที่บ้าที่สุด เขาไม่แน่ใจว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่ รู้ตัวอีกทีเขาก็ขึ้นเครื่องมาแล้ว

” Fast & Furious ภาคแรกเข้าฉายไปหนึ่งวัน หลังจากผมกับ Jason Statham ถ่ายทำ The Transporter เสร็จ เราก็แบบคุยกันว่า หนังเรื่องนี้น่าดูนะ ไปดูกันเถอะ ”

Louis Leterrier เล่าย้อนความหลังเมื่อครั้งที่เขากำกับ The Transporter ซึ่งเขาได้ร่วมงานกับ Jason Statham โดยที่ไม่รู้ว่าวันหนึ่งพวกเขาจะได้มีส่วนร่วมกับหนังเรื่องนี้ในอีก 20 กว่าปีต่อมา และคราวนี้พวกเขาก็ได้โคจรมาเจอกันอีกครั้ง

Louis Leterrier คิดว่าเขาคือคนที่โชคดี(?)ที่สุดที่ได้มาทำภาคนี้ แม้จะมาแบบเร่งรีบไม่ต่างจากชื่อของหนังก็ตามที แต่ใครมันจะปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปล่ะว่ามั้ย?

เมื่อถามว่าอะไรคือสัญชาตญาณแรกของ Louis Leterrier เมื่อเขาได้รับไฟเขียวจาก Universal ให้กำกับ Fast X เขาบอกว่าต้องอ่านบทที่น่าทึ่งของ Dan Mazeau กับ Justin Lin แล้วพยายามบิดมัน โดยเริ่มต้นเรื่องด้วยฉากบาร์บีคิวที่ทุกๆภาคเราจะเห็นในตอนจบ คือทำกลับกันไปเลย เขาจะเปิดหนังด้วยฉากปิ้งย่าง ดูหนังfast10  มันมีความน่าตื่นเต้น คนดูจะแบบว่า “โอ้… พระเจ้า เราไม่เคยดูหนัง Fast แบบนี้มาก่อนเลย” เขาคิดว่าเขาทำได้ในวันเดียวที่จะนำเสนอมันต่อทีมงานสร้าง ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังยากที่จะได้รับการยอมรับจากทั้งทีมงานและคนดู นั่นมันคือการหักสูตรแบบกลับองศากันเลย มันมีความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลวอีกด้วย แต่การที่เข้ามาในโปรเจกต์แบบไม่ได้ควบคุมการคัดเลือกนักแสดงเอง หรือควบคุมงบประมาณเอง เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว โดยเฉพาะเมียของเขาที่ดูเหมือนเธอจะสนับสนุนโดยการถีบให้เขารับงานนี้ไปซะ

Louis Leterrier ยังย้ำอีกว่าเขาถ่ายหนังเรื่องนี้ด้วยสัญชาตญาณคนทำหนังล้วนๆ ก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่องไปสตูดิโอ มีทีมงานกำชับบอกเขาว่า ” ทันทีที่คุณมาถึง แทนที่จะไปโรงแรม คุณมาที่สตูดิโอได้ไหม เพราะว่าเราสูญเสียสถานที่ถ่ายทำในองก์ที่สาม เราจึงต้องคิดใหม่ องก์ที่สามทั้งหมด” ดังนั้น นอกเหนือจากการศึกษาทุกอย่างแล้ว เขาต้องคิดไอเดียเกี่ยวกับองก์ที่สามด้วย มันเป็นงานหนักราวกับต้องอดนอนไปหนึ่งปีเพื่อคิดมัน แต่เขามีเวลาแค่หนึ่งคืน แถมยังมีนัดสัมภาษณ์ตอนตี 2 อีก แต่เขาก็คิดมันด้วยสัญชาตญาณล้วนๆแล้วเอาไปกองให้ทีมงานและโปรดิวเซอร์ดูว่าเป็นไปได้หรือไม่

เขาไม่มีแม้แต่เวลาคิด เพราะทันทีที่ลงเครื่อง เขาจะต้องคิดงานหนึ่งคืน แล้วไปกองถ่ายเลย ฉากแรกที่ต้องถ่ายคือการควบคุมโดรนถ่ายมุมสูงด้วยตัวเอง มีทีมงาน Grip บ่นให้เข้าหูว่าไอ้ผู้กำกับใหม่คนนี้มันตัวสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว เป็นคนที่สูงเกินกว่าจะเป็นคนคุมโดรนนะ แต่มีใครบางคนตะโกนสวนไปว่า ” มึงจะบ้าเหรอ เขาเป็นผู้กำกับนะ ” ดูหนังfast10  นั่นเองทำให้ Louis Leterrier เห็นเค้าลางที่ดีที่จะร่วมงานกับทีมนี้ และเขาไม่คิดจะเปลี่ยนทีมงานเดิมของ Justin Lin เลยแม้แต่คนเดียว เพราะพวกเขาให้อิสระในการทำงาน นี่จึงถือเป็นงานเผือกร้อนที่ราบรื่นที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา

สิ่งที่ Louis Leterrier ต้องการคืนมันให้หนังชุดนี้อีกอย่างคือ การแข่งรถ ซึ่งถือเป็นหัวใจของหนังมาตั้งแต่แรกเริ่ม เขาจึงดีไซน์การแข่งรถให้เหมือนการเตะฟุตบอล โดยมีลูกตุ้มระเบิดขนาดยักษ์ 20 กิโลตัน เป็นเหมือนลูกบอล และรถของตัวละครหลักคือนักเตะ การแข่งขันเตะบอลระเบิดนี้มีสนามคือกรุงโรม แม่เจ้า!! นี่คือไอเดียที่บ้ามาก

และเมื่อพูดถึงตัวละครใหม่เอี่ยมอย่าง Dante ของ Jason Momoa ที่ถือเป็นวายร้ายหลักของภาคนี้ Louis Leterrier คิดว่าบทไอ้เจ้าตัวนี้ค่อนข้างจืดชืดไปหน่อย เขาจึงสั่งให้ Jason Momoa ทำสิ่งที่ทั้งตลกและถ่อยที่สุด อย่างเช่นการเลีย ไม่ว่าจะเลียมีดที่แทงคนแล้ว หรือแม้แต่เลียผู้หญิง เขามักตะโกนว่า ” เลียสิ เลียมีดๆ เลียเธอๆ ” แล้วก็ได้ตามสั่ง ตัวละครมันส์ขึ้น ซึ่งเขายอมรับว่าเขาไม่ได้ทำหนังเรื่องนี้ให้ได้หนังเกรดดี แต่จะทำให้คนพูดถึงหนังในแบบที่ Rush Hour เคยทำได้ มันจะเป็นหนังแอ็คชั่น-คอมเมดี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซัมเมอร์

เมื่อพูดถึงหัวเรือใหญ่อย่าง Vin Diesel ถึงการร่วมงานกัน Louis Leterrier ให้ความเห็นว่า Vin Diesel ทำงานด้วยง่ายมาก เขาเหมือนเป็นเพื่อนคนหนึ่งไปแล้ว และพวกเขาส่งข้อความหากันทั้งวันเพื่ออวยพรกันและกัน และแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้คิดงานองค์สามของหนังด้วยกัน มันยอดเยี่ยมไปเสียทุกอย่างจริงๆ นี่ยังไม่รวมถึงการที่เขาจะได้มาสานต่อฉาก Justice for Han (ทวงความยุติธรรมให้ Han) เขาต้องเข้ามาคิดฉากที่ Sung Kang จะต้องมาเผชิญหน้ากับโจทก์เก่าอย่าง Deckard Shaw ที่รับบทโดยเพื่อนเก่าของเขาคือ Jason Statham ซึ่งจะออกมาเยี่ยมแค่ไหนต้องไปดูในหนังกันเอาเอง

เมื่อถามว่าเขาจะกลับมาทำ Fast ในภาคต่อไปอีกหรือไม่ Louis Leterrier ตอบอย่างไม่ลังเลว่าแน่นอน เขาเข้ามาในฐานะคนรับไม้ต่อจากงานที่สถาปนิกเริ่มงานไว้แล้ว แต่ในตอนต่อไปเขาจะได้ควบคุมงานสร้างเอง ทั้งเรื่องนักแสดง แนวทาง และงบประมาณ เรียกได้ว่าเขากำลังจะได้ตำแหน่งสถาปนิกเต็มตัวในภาคต่อๆไป ซึ่งเขามีเวลามากพอที่จะทำให้คนดูแปลกประหลาดใจ มันต่างจากการทำให้คนดูพึงพอใจ เขาปิดท้ายว่า เขาจะไม่รีบเร่งไปที่ตอนจบแบบสุกเอาเผากิน แล้วแบบว่า ‘หนังจบแล้ว จบแบบแฮปปี้ ปิ้งบาร์บีคิวกันเถอะ จบแล้ว’ แต่ Louis Leterrier ต้องการที่จะทำให้คนดูแปลกประหลาดใจกับตอนจบ ซึ่งอาจไม่ใช่ในแบบที่คนดูต้องการแน่ๆ

ontheteenbeat

My Review

Review Form...

Reviews

Loading Reviews...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *