Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง

Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง

Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ลิขิตรักข้ามกาลเวลา” เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีโรแมนติกเหนือกาลเวลา กำกับโดย Jeannot Szwarc นำแสดงโดยคริสโตเฟอร์ รีฟและเจน ซีมัวร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ดึงดูดผู้ชมมานานหลายทศวรรษด้วยการผสมผสานระหว่างความรัก การเดินทางข้ามเวลา และเพลงประกอบที่ไพเราะอย่างมีเอกลักษณ์ มาเจาะลึกโลกมหัศจรรย์ของ “Somewhere in Time” กันเถอะ

เรื่องย่อ: Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง บอกเล่าเรื่องราวที่น่าหลงใหลของริชาร์ด คอลลิเออร์ (รับบทโดยคริสโตเฟอร์ รีฟ) นักเขียนบทละครหนุ่มผู้หลงใหลในภาพถ่ายของหญิงสาวสวยชื่อเอลีส แม็คเคนนา (เจน ซีมัวร์) จากปลายศตวรรษที่ 19 หลังจากค้นคว้าชีวิตของเธอแล้ว เขาก็ค้นพบวิธีเดินทางข้ามเวลาย้อนกลับไปในปี 1912 เพื่อพบเธอ ขณะที่ริชาร์ดเริ่มต้นการเดินทางสุดพิเศษนี้ เขาพยายามที่จะเอาชนะใจเอลีส แม้ว่าจะมีความท้าทายที่เกิดจากข้อจำกัดของเวลาก็ตาม

ธีมส์: ความรักเหนือกาลเวลา: ภาพยนตร์เรื่องนี้สำรวจแนวคิดที่ว่ารักแท้ไม่มีขอบเขต แม้แต่ตัวเวลาเองก็ไม่มีขอบเขตเช่นกัน ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของ Richard ที่จะอยู่กับ Elise ก้าวข้ามขีดจำกัดของโลกชั่วคราว

โชคชะตาและโชคชะตา: “ที่ไหนสักแห่งในเวลา” เจาะลึกแนวคิดเรื่องโชคชะตาและโชคชะตา ความสัมพันธ์ที่ไม่อาจอธิบายได้ของริชาร์ดกับเอลีสและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเผยให้เห็นถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ในการดำเนินการในการนำจิตวิญญาณทั้งสองมารวมกันข้ามกาลเวลา

การเสียสละ: ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสำรวจธีมของการเสียสละ เนื่องจากริชาร์ดเต็มใจที่จะสละทุกสิ่ง แม้กระทั่งตัวตนของเขาเองในปัจจุบัน เพื่ออยู่กับผู้หญิงที่เขารัก

ดนตรี:Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง

ดนตรีประกอบอันยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งแต่งโดยจอห์น แบร์รี เป็นส่วนสำคัญของเสน่ห์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ ท่วงทำนองที่ไพเราะน่าขนลุก “Somewhere in Time” ช่วยกำหนดโทนของภาพยนตร์ เพิ่มความลึกของอารมณ์ และเพิ่มความน่าหลงใหลโดยรวม

มรดก: Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีแฟนๆ เข้าร่วมงานสังสรรค์พิเศษและกิจกรรมต่างๆ ที่อุทิศให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ภาพอันเป็นเอกลักษณ์และเรื่องราวความรักเหนือกาลเวลายังคงครองใจผู้ชมรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง

สถานที่: ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่ Grand Hotel อันเก่าแก่บนเกาะ Mackinac ในรัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นสถานที่ที่งดงามราวกับภาพวาดซึ่งเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกให้กับภาพยนตร์

บทสรุป: Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง เป็นผลงานชิ้นเอกทางภาพยนตร์ที่รวบรวมเอาองค์ประกอบของความโรแมนติก การเดินทางข้ามเวลา และโชคชะตามารวมกันเป็นเรื่องราวที่น่าหลงใหล คริสโตเฟอร์ รีฟ และ เจน ซีมัวร์ นำเสนอการแสดงที่น่าจดจำ ในขณะที่ดนตรีไพเราะของภาพยนตร์และฉากที่มีเสน่ห์นำพาผู้ชมไปสู่โลกที่ความรักไม่มีขอบเขตอย่างแท้จริง ภาพยนตร์คลาสสิกเหนือกาลเวลาเรื่องนี้ยังคงครองใจผู้ชมทั่วโลก ย้ำเตือนเราว่าความรักคือพลังที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของเวลาได้

ในส่วนของเรื่องราว ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม ไม่ไม่จบสิ้น และก็เข้าใจง่ายดี ในเรื่องของความรัก หนังประเด็นนี้ได้พรีเซนเทชั่นในหัวข้อของการเสียสละเพื่อผู้ที่รัก, การสมหวังและก็ความหมดหวัง ความสำราญและก็ความทุกข์ใจจากความรัก ได้ดีมากเลยเชียว

ส่วนที่ผมถูกใจสูงที่สุดเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์โดย John Barry ซึ่งทำเป็นดีเยี่ยม เพราะว่าตั้งแต่คราวแรกที่ได้มองจนถึงทุกวันนี้ เมโลดี้ของเพลงนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเรื่อยฟังทีไรและก็รู้สึกเสียใจและก็คิดไปถึงหนแรกที่ดูหนังหัวข้อนี้ เพลงประกอบนี้มีส่วนเป็นอย่างยิ่ง สำหรับในการชักพาอารมณ์ของผู้ชมให้เชื่อฟังอารมณ์ของหนัง

จะต้องขอบคุณมากเพื่อนฝูงที่อุตส่าห์หาดีวีดีหนังประเด็นนี้มาให้เป็นของขวัญวันเกิด ทำให้ได้ย้อนรำลึกความจำ รวมทั้งความรู้สึกดีๆในวัยเด็ก รวมทั้งเชื่อถือว่าถึงแม้เวลาผ่านไปขนาดไหน ทุกๆครั้งที่ได้ดูหนังหัวข้อนี้ จะยังคงเต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก และก็สัมผัสของความรักไว้อย่างเต็มเปี่ยม รวมทั้งจะประทับใจความตรึงใจไว้ไม่มัวที่บางพื้นที่ในระยะเวลา ดังชื่อของหนัง somewhere in time

หัวข้อนี้ยอดเยี่ยมในหนังไม่ถึง 5 เรื่องที่ดูแล้วร้องไห้แบบหนักมากมาย เป็นแถวโรแมนติก ดราม่า แฟนซีบางส่วน เป็นนางเอกงามมากมาย(เจน ซีมัวร์) แบบมากมายจริงๆ ดารานำชายก็คือหล่อล่ำ(คริสโตเฟอร์ รีฟ) เป็นแบบคัดเลือกดารามาได้พอดีมากมาย นี่ต้องการวาร์ปไปกำเนิดในตอนที่หนังประเด็นนี้ฉายมากมายอ่ะ จะไปดูในโรงสักสิบรอบเพราะว่าธรรมดาไม่ค่อยอินกับหนังแนวนี้นอกจากเรื่อง The Bluelagoon เรื่องเดียว นี่แบบขอชูประเด็นนี้เอาไว้ภายในอ้อมดวงใจขึ้นหิ้งไปเลยคะ

ภาพยนตร์หัวข้อนี้ได้รับคำชื่นชมจากนักวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่เผชิญความเร็จด้านรายได้เมื่อออกฉายในโรง แม้กระนั้นในเวลาถัดมากลับมีชื่อจากการฉายซ้ำทางเคเบิลทีวี โดยดนตรีประกอบภาพยนตร์ โดยจอห์น กางร์รี ใช้เพลง Rhapsody on a Theme of Paganini ของเซียร์เกย์ รัคมานีนอฟ ดัดแปลงปรับปรุงแก้ไขมาจากติดอยู่ปรีซ์สำหรับเพื่อการลำพังไวโอลินของนิกวัวโล ปากานินี เป็นเพลงหามกราวเกรียวด์เกือบจะตลอดทั้งเรื่อง

ภาพยนตร์ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางSomewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่องวัลออสการ์

สาขาการออกแบบอาภรณ์ เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทอง สาขาดนตรีประกอบ และก็ได้รับรางวัลรางวัลแซทเทิร์น สาขาการออกแบบเครื่องนุ่งห่ม สาขาดนตรีประกอบ และก็รางวัลภาพยนตร์แฟนตาซีเยี่ยมที่สุด

สปอยล์เลยจ๊า ในเรื่องเนี่ยเป็นปี 1979 ซึ่งดารานำชายชื่อ Collier เป็นผู้เขียนชายหนุ่มรูปหล่อ ส่งผลงานติดอันดับมากมายก่ายกอง โดยดารานำชายกำลังจัดงานแจกลายเซ็นอยู่ ต่อนี้ไปมีหญิงแก่มองสูงส่งคนหนึ่ง(การแต่งตัวเป็นชี้ว่าฐานะดี) เดินเข้ามาหาดารานำชายแล้วยื่นนาฬิกาแบบเปิดปิดฝาได้(ที่เกี่ยวคอได้สีทองคำ) ให้พระเอก พร้อมพูดว่า “come back to me” แล้วเดินจากไปเลย ทุกคนงวยงง ยิ่งดารานำชายยิ่ง งงงวย หนัก ผู้แสดงนำชายบอก “ I never saw it before in my life” แต่ว่าก็มิได้พอใจอะไร

จนถึงผ่านไป 8 ปี ผู้แสดงนำชายคิดพล็อตประพันธ์นิยายไม่ออกเลยขับขี่รถจะท่องเที่ยวเมืองอื่นเพื่อหาแรงจูงใจ จนถึงกลางทางไปพบรีสอร์ทติดสมุทรที่นึง ชื่อว่า แกรนด์ โฮเทล อยู่บนเกาะแม็กคินแน็ก ดารานำชายรู้สึกถูกใจเลยรีบขับเข้าไปเช็กอินในทันที ต่อไปนี้ผู้แสดงนำชายได้เข้าไปมองห้องนิทรรศการความเป็นมาของรีสอร์ท รวมทั้งได้ไปพบรูป ผญ คนนึงเป็นแบบงามมากมาย(รูปนางเอก) ดารานำชายกำเนิดหลงเสน่ห์คนภายในรูปโดยทันที

เลยไปถามอาร์เธอร์(บุคลากรรีสอร์ทดั้งเดิม)ว่า ผญ คนนี้ใครกันแน่อ่ะ ชื่ออะไร อาร์เธอร์กล่าวว่าชื่อ แม็กเคนน่า เป็นศิลปินดังยุคเก่า คุณมากระทำการแสดงที่โฮเต็ลนี้ในปี1912 ในช่วงเวลานั้นฉันพึ่งจะ 5 ขวบเองนะ พอใช้ได้คำตอบดารานำชายก็ยิ้มละกลับไปนอน แต่ว่านอนไม่หลับเนื่องจากคิดถึงแม้กระนั้นรูปของนางเอกเนี่ยล่ะ กลับไปกลับมา ภาพติดตา เพียงพอรุ่งอรุณดารานำชายเลยไปหอสมุดเพื่อไปพบความเป็นมาของนางเอก(เป็นผู้แสดงดังจะต้องมีความเป็นมาในหอสมุดแน่ๆ) กระทั่งพบว่านางเอกเป็นคนไหน เรื่องราวเช่นไร รวมทั้งที่ช็อกเป็นไปพบรูปนางเอกถ่ายไว้เมื่อแปดปีที่ผ่านมา ดันเป็นผู้เดียวกับหญิงแก่ที่เอานาฬิกามาให้พวกเรา

เป็นเพลงที่ดารานำชายดันถูกใจแบบเพลงที่ดารานำชายฟังเป็นประจำอ่ะ ผู้แสดงนำชายเลยมีความรู้สึกว่าประเด็นนี้ควรจะมีปม เลยตกลงใจไปพบนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องย้อนเวลา ผู้แต่งกล่าวว่า ให้ทดลองย้ำกับตนเองเสมอๆว่าจะกลับไปในตอนไหน แต่ว่าสถานที่ก็จำเป็นที่จะต้องเป็นที่ที่เดียวกันกับที่พวกเราต้องการย้อนไปในอดีตกาลด้วย แต่ว่านักเขียนทดลองทำก็ยังไม่เคยเสร็จนะ

เนื่องจากว่าดารานำชายเป็นผู้เขียน ก็จะถูกใจจิตมากมายหน่อยเลยไปซื้อสูทย้อนยุค

ดูหนังออนไลน์ Somewhere in Time (1980)

ตัดผมให้กับสมัย1912 ละไปนอนในห้องที่เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์เดิม แล้วบันทึกเสียงว่าจะขอกลับไปในวันที่นางเอกมาทำแสดงที่บังกะโล ปี1912 เเล้วเปิดเทปวนกล่อมตนเอง แต่ว่าก็ไม่ย้อนสักครั้ง จนถึงในที่สุดดันตื่นมาเป็น ปี1912 ‘

ตัวหนังจัดว่าทำเป็นดี แน่ๆว่า 2 ดารานำผูกจิตใจผู้ชมได้อยู่มือครับผม เรื่องราวก็หวาน สวยสดงดงาม เป็นความรักที่เบาๆบานทีละเล็กละน้อย และก็ยังเป็นความรักที่เกิดขึ้นจากความรู้ความเข้าใจ ริชาร์ดและก็เอลิสต่างก็ศึกษากันและกัน แสงกระสือ ฟังกันและกัน จนกระทั่งความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นเรื่อย

“ที่ไหนสักแห่งในเวลา” ได้ทิ้งร่องรอยที่ลบไม่ออกให้กับวัฒนธรรมสมัยนิยม ความน่าดึงดูดใจที่ยั่งยืนได้สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการสนทนา แฟนคลับ และแม้กระทั่งกิจกรรมตามธีมนับไม่ถ้วน ต่อไปนี้เป็นแง่มุมเพิ่มเติมบางประการที่มีส่วนทำให้เกิดมรดกที่ยั่งยืน:

การแสดงของคริสโตเฟอร์ รีฟ: คริสโตเฟอร์ รีฟ ซึ่งเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีจากการแสดงเป็นซูเปอร์แมน แสดงให้เห็นความสามารถรอบด้านของเขาในฐานะนักแสดงใน Somewhere in Time (1980) ลิขิตรักข้ามกาลเวลา เต็มเรื่อง การแสดงความรักอันแรงกล้าและความปรารถนาอันแรงกล้าของริชาร์ด คอลลิเออร์สะท้อนใจผู้ชมได้อย่างลึกซึ้ง และยังคงเป็นหนึ่งในการแสดงที่โดดเด่นในอาชีพของเขา

Grace ของ Jane Seymour: การแสดงภาพของ Elise McKenna ของ Jane Seymour แสดงออกถึงความสง่างามและความสง่างาม ความงามเหนือกาลเวลาและการมีอยู่จริงของเธอทำให้ตัวละครของเธอทั้งน่าหลงใหลและน่าจดจำ

ความงามแบบภาพยนตร์: การถ่ายภาพยนตร์รวบรวมความสง่างามของโรงแรมแกรนด์และสภาพแวดล้อมโดยรอบ ความใส่ใจในรายละเอียดในการสร้างฉากปี 1912 ขึ้นมาใหม่ช่วยเพิ่มเสน่ห์โดยรวมของภาพยนตร์

การดัดแปลงและการแสดงความเคารพ: “Somewhere in Time” มีอิทธิพลต่อภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และวรรณกรรมที่ตามมาซึ่งสำรวจธีมของการเดินทางข้ามเวลาและความรักเหนือกาลเวลา มันยังคงเป็นมาตรฐานสำหรับผู้ที่ต้องการบอกเล่าเรื่องราวที่คล้ายกัน

การอุทิศของแฟนๆ: ฐานแฟนๆ ที่ทุ่มเทของภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยรักษาความทรงจำให้คงอยู่ผ่านการพบปะประจำปีที่โรงแรม Grand Hotel และชุมชนออนไลน์ แฟนๆ เฉลิมฉลองวันครบรอบการเปิดตัวภาพยนตร์ด้วยกิจกรรมพิเศษและการฉายภาพยนตร์ เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นชุมชนเกี่ยวกับความรักที่พวกเขามีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้

ปิดท้ายด้วย “Somewhere in Time” ยังคงเป็นอัญมณีแห่งภาพยนตร์อันเป็นที่รัก ชื่นชมในการเล่าเรื่องที่จริงใจ การแสดงที่โดดเด่น และความเชื่ออันยาวนานที่ว่าความรักสามารถก้าวข้ามขอบเขตของเวลาได้ ไม่ว่าคุณจะค้นพบมันเป็นครั้งแรกหรือกลับมาดูอีกครั้ง ความน่าหลงใหลของภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน ย้ำเตือนพวกเราทุกคนว่ารักแท้นั้นอยู่เหนือกาลเวลาจริงๆ

My Review

Review Form...

Reviews

Loading Reviews...

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *